นายพิชัย นริพทะพันธุ์
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
ภายหลังถูกเชิญตัวเข้าไปปรับทัศนคติที่กองทัพภาคที่ 1
โดยได้ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง พร้อมระบุว่า
ผู้แทนกองทัพขอความร่วมมือไม่ให้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ ที่จะไปกระทบการบริหารงานของรัฐบาล ไม่ใช่การบังคับหรือข่มขู่และไม่ต้องการควบคุมตัว โดยผมได้ชี้แจงว่า
อยากให้ผู้แทนทหาร ได้กลับไปอ่านที่ผมคอมเม้นท์ทั้งหมดที่ผ่านมา
ว่าผมมีเจตนาอยากเห็นประเทศก้าวไปได้ โดยอยากให้นำมาพิจารณา และสิ่งที่ผมคาดประมาณว่า เศรษฐกิจจะแย่ก็แย่จริงๆ ผมจะไปพูดให้เศรษฐกิจแย่ก็คงไม่ได้ และอยากให้เปลี่ยนวิธีการคิด มิเช่นนั้นเศรษฐกิจอาจจะแย่กว่านี้ ในส่วนที่ท่านนายกกล่าวถึงว่าที่ผมวิจารณ์เรื่องพลังงาน ทำไมอยู่ในตำแหน่งไม่ทำนั้น ผมได้ชี้แจงว่า ถ้าหากได้ติดตามที่ผมให้ความเห็น ผมบอกชัดเจนว่าผมเห็นด้วยกับรัฐบาลในแนวทางการปรับราคาพลังงานของรัฐบาล
เพราะมีการสนับสนุนราคาก๊าซมาเป็นสิบปีแล้ว หากจำกันได้ในสมัยที่ผมอยู่ในตำแหน่ง ก็เริ่มดำเนินการลอยตัวราคาก๊าซ จนมีผู้ประท้วงปิดถนนวิภาดีกัน เพราะเป็นเรื่องจำเป็นกับประเทศจริงๆ ส่วนความเห็นที่ให้เพิ่มเติม ก็เนื่องจากภาวะการณ์ได้เปลี่ยนไป เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันได้ลดต่ำลงมามาก ไม่เหมือนในสมัยผมที่ราคาน้ำมันบาเรล
ละกว่า 100 เหรียญ แต่อย่างไรก็ตามผมยินดีให้ความร่วมมือ และจะไม่ออกความเห็นให้กระทบกับรัฐบาลอีก
ถ้าเห็นว่าความเห็นผมไม่เกิดประโยชน์
นายพิชัย ระบุอีกว่า ผมเข้าไปถึงกองทัพภาคที่ 1 เวลา 10 โมงกว่า กลับออกมาประมาณเที่ยงกว่า การสนทนาเป็นไปด้วยดี สุภาพ และตรงประเด็น โดยผู้แทนกองทัพยังพนันกับผมว่า เศรษฐกิจในอีก
3 เดือนหน้านี้จะดีแน่นอน ผมเองอยากจะเสียพนัน เพราะประชาชนจะได้มีความสุข
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า
เจ้าหน้าที่นัดผมไปคุยที่สโมสรทหารบก
เทเวศร์ การสนทนาเป็นไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ไม่มีข่มขู่บีบบังคับ
สาระโดยสรุปคือ อธิบายเหตุผลการยึดอำนาจ
ความมุ่งหมายของ คสช.
และขอให้งดแสดงความเห็นทางการเมือง พร้อมแจ้งมาตรการต่อไปหากเห็นว่าไม่ให้ความร่วมมือ
นายณัฐวุฒิจึงกล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือ
ไม่มีเคลื่อนไหวเผชิญหน้า แต่เรื่องการแสดงความเห็น ผมคิดว่าเป็นสิทธิ์และพร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น ขอให้เข้าใจว่าทุกอย่างที่พูดเพราะผมคิดและเชื่อเช่นนั้น ด้วยความหวังดีต่อบ้านเมือง ไม่มีเป้าหมายอื่น
สุดท้ายก็จบตรงที่ตัวแทนกองทัพกล่าวว่า
"ก็แล้วแต่น้อง"
ถือว่าเราได้พูดคุยกันแล้ว นายณัฐวุฒิจึงตอบว่า
หากวันข้างหน้ามีเหตุต้องเรียกผมมา หรือดำเนินการอย่างไรกับผมอีก ขอให้เข้าใจว่า
ไม่ใช่ผมเล่นแง่หรือไม่ไว้หน้าคณะที่พูดคุยกัน แต่ผมเป็นผมแบบนี้จริงๆ
ทีมข่าว TV24 สถานีประชาชน รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น