วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สงฆ์นานาชาติ ยื่น UN ระงับการใช้ความรุนแรงและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นฐานของพระธัมมชโยและสาธุชนวัดพระธรรมกาย

วันที่ 15 ธ.ค. เวลา 10.00 น. เครือข่ายพระสงฆ์นานาชาติในประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือที่ UN สำนักงานประเทศไทย เพื่อระงับการใช้ความรุนแรงและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นฐานของพระเทพญาณมหามุนีและสาธุชนวัดพระธรรมกาย

โดยก่อนหน้านี้สมัชชาสงฆ์เถรวาทโลกและองค์กรพุทธนานาชาติหลายประเทศได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ยุติการกระทำที่รุนแรงต่อพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) และชาวพุทธที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย

ทั้งนี้ในจดหมายระบุว่า


15  ธันวาคม  2559
เรียน       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
                สำนักงาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
                กรุงเทพมหานคร

เจริญพร
จากที่คณะสงฆ์นานาชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ได้สังเกตการณ์สถานการณ์ในประเทศไทยตามสื่อต่างๆ คณะสงฆ์รู้สึกกังวลใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการกดขี่เสรีภาพในการแสดงออกของชาวพุทธทั้งหลาย การกระทำที่ส่อถึงความไม่ชอบมาพากลของทางการไทยและสื่อต่างๆ อันแสดงให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ในการทำลายชื่อเสียงของพระพุทธศาสนา
 อันเป็นที่ทราบพระพุทธศาสนาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลกว่าเป็นศาสนาแห่งสันติสุข หลักปรัชญาของพระพุทธศาสนาคือ ความสันติสุขและความรักโดยไม่แบ่งเชื้อชาติหรือศาสนา ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก ประชากรร้อยละ 95 ของประเทศนับถือศาสนาพุทธ มีพระประมุขทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา นี่คือกุญแจที่ทำให้เกิดการสร้างสันติสุขขึ้นในสังคมไทย  แต่ในปัจจุบันสื่อต่างๆ รายงานว่าจะมีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อบุกไปยังวัดพระธรรมกายในขณะที่คดีทั้งหลายยังไม่ได้มีการสั่งฟ้องอีกทั้งยังปราศจากหลักฐานว่าพระเทพญานมหามุนี หรือ เจ้าอาวาสองค์ก่อนกระทำความผิดดังที่ได้มีการประโคมข่าว แท้จริงแล้วหลวงพ่อธัมมชโยเป็นผู้บริสุทธิ์ยังไม่ถูกสั่งฟ้องในคดีใดเลย

 ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการรายงานข่าวว่า มีการเตรียมกองกำลังมากกว่า 2000 นายพร้อมทั้งสุนัขตำรวจ และเครื่องมือควบคุมการจราจลทุกชนิด ในคลิปเสียงของนายตำรวจที่บอกว่าจะมีการเข้าใช้กำลังความรุนแรงกับผุ้คนที่มาขัดขวางการทำงาน การกระทำของทางการนี้จัดเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะหมายจับนั้นเป็นเพียงหมายจับเพื่อไปสอบปากคำ ไม่ใช่การจับอาชญากร และการใช้กำลังเกิดกว่าเหตุนี้จะมีผลเสียอย่างรุนแรงกับทางสาธุชนนับหมื่นคนที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด
 นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ทางทหารได้ยกเลิกการจัดงานประชุมเสวนาวิชาการเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของพระพุทธศาสนา ประชาชนชาวไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมตามหลักรัฐธรรมนูญที่จะแสดงความคิดเห็น กลุ่มทหารได้บุกมาที่ห้องสัมนาและขอให้ทางผู้จัดยกเลิกการจัดงานโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า คณะสงฆ์ไม่สามารถเข้าใจถึงการกระทำอันไม่ชอบธรรมของทหารได้เลย
 มีหลายคดีที่พระถูกจับและถูกบังคับให้สึกและต่อมาพิสูจน์พบว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ในหลายๆ คดีไม่มีหลักฐานเพียงพอ หรือเป็นแค่เพียงการกล่าวหาลอยๆเท่านั้น การกระทำนี้นับเป็นการกระทำที่ไร้ความยุติธรรมโดยใช้หลักที่ว่าจับก่อนแล้วค่อยตรวจสอบฐานความผิด โดยพระที่ถูกควบคุมตัวก็ต้องถูกสึกเปลี่ยนสถานะจากความเป็นพระไป คดีต่างๆเหล่านี้ไม่เคยมีการรอมชอม ไม่มีสื่อสำนักใดออกมาชี้แจงถึงความบริสุทธิ์ของพระรูปนั้นๆเมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ กระบวนการนี้จัดเป็นกระบวนการที่ปราศจากความยุติธรรมสำหรับพระสงฆ์

 อาตมาภาพและคณะสงฆ์จึงใคร่ขอให้ท่านช่วยปกป้องสิทธิมนุษยชนของพระและพุทธศาสนิกชนในเมืองไทย เพราะพวกเขาดำรงชีวิตภายใต้พื้นฐานความรักและปราศจากการใช้ความรุนแรง หากสิทธิของพวกเขาไม่ถูกปกป้องจากท่านแล้ว คงจะไม่มีบุคคลใดที่จะพยายามแก้ปัญหาโดยสันติ เราไม่ควรส่งเสริมหรือปล่อยให้การกระทำผิดนี้ดำเนินต่อไป
 
 อาตมาภาพและคณะสงฆ์จักมีความรู้สึกยินดียิ่งหากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะขอให้รัฐบาลไทยใช้มาตรการในการแก้ปัญหาอย่างสันติและปราศจากความรุนแรงกับวัดพระธรรมกายรวมถึงส่งเสริมการปกป้องสิทธิมนุษยชนของชาวพุทธ

ขอแสดงความนับถือ


คณะสงฆ์นานาชาติในประเทศไทย


December 15, 2016

To           Mr. Laurent Meillan
Officer-in-Charge            
Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights
Bangkok

Yours Excellency,

We have been observing the news reports in Thailand with grave concerns. There have been many cases of human’s rights violation and suppression of freedom expression on Buddhist communities. These actions were conspired by Thai authorities and media. Their objectives are to defame Buddhism. 

Buddhism has been globally recognized as the religion of peace. Its philosophy promote peace and compassion beyond boundaries of races or religions. Thailand is the center of Buddhism in the world as 95% of its population is Buddhist. The monarchy has also been supportive of the promotion of Buddhism. This helps building peace in the society. 

There were news reports on the plan to use force in order to break into Wat Phra Dhammakaya. A number of cases have not been charged yet. There was no proof of Phrathepyanmahamuni – Former Abbot of Wat Phra Dhammakaya – committed of any crimes. Hence, he has not been indicted of any charges or crimes. Nonetheless, news reports showed that Thai authorities prepared over 2,200 armed forced with K-9 unit and riot control equipment. There were also sound clips of deputy commanders of Royal Thai Police ordering the use of fire hose on people who have not shown any threats. The authorities’ actions are overly exaggerated. As the arrest warrant for  a 72-year-old sick monk is only for interrogation, not for arresting a criminal. Their actions may cause severely harm the lives of thousands of peaceful devotees in the temple ground. 

There was also the case on Thai soldier suspended the seminar on the current situation of Buddhism. The seminar was not commenced yet. It is within the rights of Thai citizens to express their opinions in accordance with the constitutions. The Thai soldiers raid the seminar room and suspended it without prior notice. We could not comprehend the actions of Thai soldiers. 

There are also more cases in the cases where as monks were arrested and forced to disrobe from monkhood. Later, they were found not guilty. Many cases did not have plaintiffs or accusers. This is not considered as justice being served. This is an execution before proven guilty, as that person cannot return to be monk again. These cases have never been compensated. None of the media ever clarifies their innocent as much as when they reported the false claims. This is the unfair treatment in Thai judicial system on monk. 

We request for your kind consideration to look into the protection of Buddhist monks and devotees’ rights in Thailand. They live their lives based on principles of compassion and non-violence. If their rights are not protected, there would not be any individuals who try to resort everything through peaceful means. No one shall be encouraged to withstand such abuses peacefully.  

We would be most grateful if the UN Human Rights Commissioner shall request the Thai government to seek peaceful and non-violent means on the case of Wat Phra Dhammakaya, and promote the protection of human rights of Buddhists. 

Yours Truly,

International Buddhist Sangha in Thailand







ไม่มีความคิดเห็น :