วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พระสงฆ์ไทย แถลงการณ์แก้ข่าว สืบเนื่องจากกรณีการเสนอข่าวของมติชนออนไลน์ ประเด็นพระไทยเอี่ยวช่วยกลุ่มพระสุดโต่งเมียนม่า

แถลงการณ์แก้ข่าว

สืบเนื่องจากกรณีการเสนอข่าวของมติชนออนไลน์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยพาดหัวข่าวว่า..ฉาวโฉ่! สื่อเทศแฉพระไทยเอี่ยวช่วยกลุ่มพระสุดโต่งเมียนม่ารณรงค์เกลียดชังมุสลิมแดนหม่อง!...

โดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพี นั้น  ได้ปรากฏภาพและเนื้อหาที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนและรุนแรงกว่าความเป็นจริงอย่างมาก อันอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและแตกความสามัคคีกับผู้อ่านทั่วไปได้ ดังนั้น จึงจะขอที่แจงแก้ไขความคลาดเคลื่อนในข่าวดังกล่าวให้ได้รับทราบข้อแท้จริงโดยทั่วกัน ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อร่วมมือกันจัดตั้งสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาขึ้น ในประเทศเมียนม่านั้น ฝ่ายไทย  ประกอบด้วย สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(สวพช.) พุทธมณฑล และสมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ(สพวช.) ได้ลงนามร่วมกับกับคณะสงฆ์พม่า ซึ่งประกอบด้วย Ven.Sopaka Jatavam (Ph.D) และ Ven. That Dam Ma ซึ่งท่านทั้งสองเป็นพระเถระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มิได้มีความคิดรุนแรงดังที่ข่าวระบุ และวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสถานีวิทยุก็มีอย่างชัดเจนเพียงประการเดียวคือ เพื่อการเผยแพร่และปกป้องพระพุทธศาสนา มิได้มีความมุ่งหวังที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับศาสนาอื่นแต่อย่างใด

ข้อ 2 ในการประชุมของคณะสงฆ์จากทั่วประเทศเมียนม่าในครั้งนี้ ซึ่งมีพระและฆราวาสมาร่วมประชุมมากกว่า 6,000 รูป/คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สงบ สันติ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารจากคณะสงฆ์ทั่วประเทศเมียนม่า รวมถึงปัญหาและอุปสรรคจากภัยการรุกรานของศาสนาอื่นที่มุ่งหวังจะก่อให้เกิดความรุนแรง ไม่ได้หมายรวมถึงการต่อต้านการเผยแผ่ที่กระทำด้วยความสงบและสันติแต่อย่างใด และข้อเสนอแนะตลอดจนแนวทางในการแก้ไขปัญหาการถูกรุกรานจากศาสนาอื่น ที่ประชุมก็มีแต่ข้อเสนอแนะอย่างสันติวิธี ที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ข้อ 3 จากภาพที่ลงประกอบข่าวนั้นไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประชุมในครั้งนี้แต่อย่างใด การประชุมในครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบสันติไม่มีการประท้วงไม่มีการเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่กำลังตำรวจหรือทหารมาให้การดูแลรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความสันติสุขอย่างแท้จริงของโลก มีความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นหลักสอนเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พระสงฆ์ก็มีศีลมีธรรมวินัย ที่ต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดต่างจากฆราวาส  การเบียดเบียนทำร้ายกันแม้เพียงกระทำต่อสัตว์ ก็ไม่ใช่แนวทางที่พระสงฆ์จะพึงสั่งสอนหรือปฏิบัติได้ ยิ่งไปกว่านั้นความคิดที่ทำร้ายผู้อื่น ก็ถือเป็นความผิดที่ผู้คิดจะต้องได้รับผลกรรมเช่นกัน แม้พระสงฆ์ที่สื่อฯ กล่าวอ้าวว่าหัวรุนแรง ในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาแม้เพียงแค่คิดจะกระทำความรุนแรงก็ผิดแล้ว ถ้ายิ่งได้ลงมือกระทำถึงขั้นทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต ก็ต้องขาดจากความเป็นสงฆ์ในทันที ต่างจากคำสอนบางศาสนาที่สอนศาสนิกให้เชื่อว่าการล้างผลาญชีวิตคนที่คิดต่างแม้เป็นคนในศาสนาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ยิ่งการทำสงครามกับคนต่างศาสนายิ่งเป็นสิ่งที่ชอบธรรม ดังนั้นระดับความรุนแรงของพระสงฆ์ในพุทธศาสนา จึงต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับความรุนแรงในบางศาสนา

ท่านลองจินตนาการดูว่า หากคนในโลกนี้ทั้งโลก ต้องนับถือศาสนาเพียงศาสนาเดียว สันติภาพและสันติสุขที่แท้จริงของโลกจะเกิดขึ้นได้ด้วยคำสอนของศาสนาใด

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขอย่างแท้จริง ของมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายทุกชาติ ศาสนาโดยทั่วกัน จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อให้สื่อมวลชนได้ทราบและโปรดทำความเข้าใจให้ถูกต้องตามข้อแท้จริงดังกล่าวนี้ ด้วยความเคารพรัก

สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(สวพช.) พุทธมณฑล
สมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ(สพวช.)
คณะภิกษุและฆราวาสที่ร่วมในการประชุม









ไม่มีความคิดเห็น :