วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

รายงาน..ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ลงจากหลังเสือ(แล้วกลายมาเป็นคนล่าเสือแทน)พร้อมความเคลื่อนไหวในปี2557

       ภายหลังการถูกบังคับให้ก้าวลงจากอำนาจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งเข้าทำนองสุภาษิตไทยที่ว่า "ลงจากหลังเสือ" แต่ดูเหมือนว่า ในสายตาผู้รักประชาธิปไตย  ยังคงยกย่องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในใจเสมอ เราจะไปย้อนดูความเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์ในรอบปี 2557 ที่ผ่านมา กับรายงานพิเศษชิ้นนี้..

       หลังรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลง จากการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แต่ทุกความเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังคงถูกจับจ้องจากสาธารณชนและสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา ในฐานะที่เธอคือนายกหญิงคนแรกของประเทศ ผู้อยู่กลางใจประชาชน ที่ถูกเกมการเมืองบีบคั้น ด้วยคดีความต่างๆ กระทั่งถูกรัฐประหาร จึงยาก.. ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง จะแบกรับเรื่องราวมากมายไว้ได้ แต่เธอ..ผู้ชื่อว่ายิ่งลักษณ์ สามารถยืนหยัด โดดเด่น สง่างาม ยิ่งกว่าชายอกสามศอก จนถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสตรีที่ทรงอิทธิพลของโลก

       และดูเหมือนความโดนเด่น เป็นที่สนใจของนางสาวยิ่งลักษณ์ สามารถแย่งพื้นที่สื่อ ไปจาก คสช.อยู่ไม่น้อย เริ่มจากความเคลื่อนไหวแรกต่อสาธารณชน คือ

       เมื่อ วันที่ 21 มิถุนายน 2557 อดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ ได้ควง "น้องไปป์" บุตรชาย ทำบุญวันเกิด ครบ 47 ปี ที่วัดบึงทองหลาง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน

       ต่อมา วันที่ 18 กรกฎาคม อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ได้ออกมาแถลงข่าวที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โดยแสดงความมั่นใจในความบริสุทธิ์ ภายหลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีอาญา โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเธอระบุว่า เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ปกติ  ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น นักข่าวทั้งไทยและเทศ ได้กรูเข้าไปสัมภาษณ์ เธออย่างชุลมุน และเรียกนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า ท่านนายกซึ่งเป็นตำแหน่งที่ประชาชนมอบให้เธอ

       นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังคงขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์ ช่วงชิงพื้นที่ข่าวจาก คสช.อีกครั้ง เพียงแค่เธอไปเดินเยี่ยมชมตลาดน้ำอโยธยา ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 กันยายน

       อีกเหตุการณ์ ที่ดูเหมือนว่าสื่อมวลชน ยังให้ความสำคัญกับนางสาวยิ่งลักษณ์อยู่อย่างยิ่ง คือการที่สำนักข่าวต่างๆ ส่งทีมข่าว สร.1 ซึ่งปกติจะต้องทำหน้าที่ติดตามภารกิจนายกรัฐมนตรี แต่คราวนี้นักข่าว สร.1 ก็ได้ไปส่งเธอ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทย  เมื่อ 8 กันยายน

       อีกความเคลื่อนไหว ที่ทีมข่าว TV24 ของเรา ประจักษ์แก่ตาตัวเองว่า นางสาวยิ่งลักษณ์  ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ในใจของพี่น้องประชาชน เมื่อคราวที่เธอ ไปร่วมงานเทศกาลอาหารเจ ณ ห้างเดอะมอลล์บางกะปิ เมื่อ 24 กันยายน พร้อมกับเปิดเผยอาหารเจเมนูโปรดด้วย ว่าชื่นชอบยำเจ ซึ่งมีประชาชนมากมายมาขอถ่ายรูป แม้กระทั่งผู้บริหารศูนย์การค้า ไปจนถึงพี่วินหน้าห้าง

       และอีกครั้ง กับคลื่นมหาชน ที่ต่างมายืนต้อนรับนางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมตะโกน นายกยิ่งลักษณ์ สู้ๆในการเดินทางมาเป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรม พันเอกอภิวันท์ วิริยะชัย คืนแรก  ที่วัดบางไผ่เมื่อ 12 ตุลาคม


       คราวนี้ เป็นที่ฮือฮาทั่วโลก กับภาพที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินอยู่ท่ามกลางมวลชนหลายหมื่น เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพพันเอกอภิวันท์ เมื่อ 19 ตุลาคม กับท่าทางงามสง่า ดุจนางพญาหงส์ ที่ได้มาไว้อาลัยกับการจากไปของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ซึ่งได้สร้างความฮึกเหิมแก่ผู้รักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

       ปลายเดือนตุลาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมบุตรชาย เดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยประเทศจีน และครั้งนี้ก็ได้สร้างความฮือฮาไม่แพ้ครั้งใด  กับการปรากฏภาพ พี่ชาย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เคียงคู่กัน ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน วัดพระเขี้ยวแก้ว และสวนสัตว์แพนด้า


       ก่อนที่เธอจะพาพันตำรวจโททักษิณ เฉียดประเทศไทย ด้วยการเยี่ยมชมวัดและหมู่บ้านไทยลื้อ เมืองสิบสองปันนา  มณฑลยูนนาน  ซึ่งทั้งหมด ล้วนได้รับความสนใจจากสาธารณชน จนอาจขวางหูขวางตาผู้มีอำนาจเข้า ท้ายที่สุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้เสนอข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2…

       โดยการเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ มีผู้ไม่หวังดี พยายามกล่าวหาว่านางสาวยิ่งลักษณ์ จะใช้โอกาสนั้น ไม่เดินทางกลับไทย แต่ท้ายที่สุด ด้วยคุณลักษณะของเธอ ที่เป็นคนตรง พูดคำไหนคำนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ กลับมาตามสัญญา...

       จะด้วยคุณลักษณะนี้หรือไม่ ที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่นั้น รักเธอยิ่งนัก/ ยืนยันจาก นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ผู้เคยร่วมงานใกล้ชิดกับอดีตนายกฯว่า นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นคนติดดิน ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ เธออาศัยความนิ่งแล้วตั้งใจทำงาน ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ไม่ใชคนที่ ดีแต่พูด


       สายเลือดของตระกูลชินวัตร ที่ไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวัง นางสาวยิ่งลักษณ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ครองใจประชาชนได้



       และ ณ วันนี้ วันที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงจากหลังเสือ แม้จะหมดอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ อย่างไรก็ตาม นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้พิสูจน์ทฤษฎีของนักปรัชญาการเมืองที่ว่า อำนาจที่แท้ มาจากการยินยอมพร้อมใจมอบให้จากประชาชน  คนที่ปล้นอำนาจคนอื่นมา จึงเปรียบเสมือนเสือที่ไร้เขี้ยวเล็บ แต่ว่านางสาวยิ่งลักษณ์นั้น หลังจากที่ได้ลงจากหลังเสือแล้ว เธอได้กลายมาเป็นนายพรานล่าเสือแทนต่างหาก
                                          ทีมข่าว TV24 สถานีประชาชน รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น :