วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

ทนายยิ่งลักษณ์ ตั้งข้อสังเกต มติคณะทำงานร่วม ป.ป.ช. รวบรัด รีบ จ้องสั่งฟ้องอาญาหวังสร้างกระแสก่อนที่ประชุม สนช. มีมติถอดถอน พร้อมเตรียมร่อนหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด พรุ่งนี้



       (วันที่ 22 มกราคม 2558 เวลา 15.30น.) นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. ในการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ของอัยการสูงสุดว่าได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ด้วยความชอบธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ เนื่องจาก ที่ตนตั้งข้อสังเกต เพราะได้ไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดรวม 2 ครั้ง ภายหลังที่ ป.ป.ช. ส่งสำนวนคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวมายังอัยการสูงสุด และต่อมาอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงานที่มีนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานในเบื้องต้นคณะทำงานได้สรุปข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจากสำนวน ป.ป.ช. แล้ว อัยการสูงสุดได้ชี้ ข้อไม่สมบูรณ์รวม 3 ประเด็น อาทิเช่น คดีนี้ไม่มีหลักฐานทุจริต มีเพียงปกรายงาน TDRI ให้สั่งสอบว่ามีการทุจริตในขั้นตอนใด เป็นต้น และครั้งสุดท้ายตนได้ไปยื่นขอความเป็นธรรมตามที่อัยการสูงสุดชี้ข้อไม่สมบูรณ์ ปรากฏว่า เมื่อ 16 มกราคม 2558 นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ตอบข้อซักถามในสภาฯ ในลักษณะชี้นำทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้เป็นความลับว่ามีการตกลงระหว่างคณะทำงานร่วม ระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุดและฝ่าย ป.ป.ช. เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคณะทำงานร่วมมีมติเห็นว่าคดีมีมูล มีข้อตกลงกันได้ว่าอัยการสูงสุดจะฟ้องคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นข้อพิรุธว่าเหตุใด นายวิชาฯ จึงกล้าพูดชี้นำเช่นนั้น แต่ความมาปรากฏต่อมาว่า นายวุฒิพงศ์ฯ หัวหน้าคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด กับฝ่าย ป.ป.ช. แถลงข้อเท็จจริง วันที่ 21 มกราคม 2558 ว่า “ตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานไม่เห็นทราบเรื่องที่ ป.ป.ช. ไปออกข่าว ไปประชุมกันตอนไหน ยังงงว่าทำไมไม่เชิญตนเพราะคณะทำงานร่วมยังไม่สรุปเรื่องเลย ยังอยู่ขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ไม่สมบูรณ์ สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปาก ยังไม่ถึงไหน ยังไม่รายงานเลย...และยืนยันว่าการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้ต้องพิจารณาคำให้การของพยานที่สอบเพิ่มเติมและหลักฐานต่างๆ ที่ฝ่าย ป.ป.ช. ขอจากหน่วยราชการมาให้ครบถ้วนเสียก่อน” จากข่าวนี้ ทำให้เห็นว่าคำสั่งของอัยการสูงสุดยังไม่ได้รับการปฏิบัติให้ครบถ้วนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

       นอกจากนี้ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กลับให้ข่าวยืนยันว่าได้มีการประชุม เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 มีตัวแทนฝ่าย ป.ป.ช. 10 คน และตัวแทนฝ่ายอัยการสูงสุด 3 คน โดยยืนยันว่าเป็นการประชุมที่สมบูรณ์แล้ว และอ้างว่าที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าขณะนี้ข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ นั้น ได้มีการสอบพยานบุคคลและหาพยานหลักฐานต่างๆ จนครบถ้วน สามารถฟ้องคดีได้ จึงมีมติเสนอเรื่องส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องต่อไป

       นายนรวิชญ์ กล่าวว่า อัยการสูงสุดฟ้องคดีโดยไม่รับฟังข้อยุติจากคณะทำงานที่ตนแต่งตั้งมาเองได้อย่างไร ซึ่งนายวุฒิพงศ์ฯ ก็ได้ยืนยันว่าคดีนี้ข้อไม่สมบูรณ์ยังไม่ได้รับการพิจารณาไต่สวนให้คดีมีความสมบูรณ์ และทำไมตนจึงไม่ทราบว่ามีการประชุมครั้งนี้ หากข่าวที่นายสรรเสริญ ยืนยันเป็นจริง จึงมีคำถามว่า อัยการจำนวน 3 คน ที่ร่วมประชุมถือเป็นตัวแทนอัยการสูงสุดหรือไม่ และมติที่นายสรรเสริญฯ อ้างนั้นเป็นมติที่ชอบของคณะทำงานชุดใหญ่ที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งหรือไม่ เพราะหัวหน้าคณะทำงานยังไม่รับทราบ และยังยืนยันว่าข้อไม่สมบูรณ์ยังไม่ได้รับการปฏิบัติ เช่นนี้ ถือได้หรือไม่ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่ไม่ชอบ

       “ในฐานะทนายความของ อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดในวันที่ 23 มกราคม 2558 เพราะผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำของประเทศ จึงควรดำรงไว้ซึ่ง หลักนิติธรรม และอัยการสูงสุด จำเป็นที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดำรงมากว่า 100 ปี”
                                                                                              โดย ทีมข่าว TV24 สถานีประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น :