วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กรรมการมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย ต่างยืนยันเจตนารมณ์วีรชนพฤษภา 35 ที่ต่อสู้เพื่อให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง พร้อมฝากถึงแม่น้ำ 5 สายรับฟังความเห็นต่าง อย่าร่างรัฐธรรมนูญที่จะซ้ำรอยการนองเลือดเมื่อ 23 ปีที่แล้ว




ภาพโดย คุณสงวน คุ้มรุ่งโรจน์

มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย  จัดสหปาฐกถารำลึก 23 ปีพฤษภาประชาธิปไตย 2535 ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา โดย นายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์ อดีตประธานและกรรมการก่อตั้งมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย  ได้เล่าถึงที่มาของเหตุการณ์พฤษภา 2535  ทั้งจากการรัฐประหารและยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ จนนำสู่การลุกฮือของประชาชนและเกิดโศกนาฏกรรมทางการเมือง และหลังเหตุการณ์ได้ทำให้ทหารหรือกองทัพ  มีความเป็นทหารอาชีพไม่เข้ามาแทรกแซงการเมืองเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ก่อนที่จะมีรัฐประหารปี 2549 

ขณะที่นางประทีป   อึ้งทรงธรรม ฮาตะ กรรมการมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย กล่าวว่า  เมื่อ 23 ปีที่แล้วชนชั้นนำผูกขาดการร่างรัฐธรรมนูญและยังสืบทอดอำนาจ ประชาชนไม่ได้มีส่วนทางการเมือง  พร้อมกล่าวเชิดชูวีรกรรมของเรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร อดีต ส.ส.หลายสมัย  เจ้าของฉายา จอม-อด ที่เป็นจุดเริ่มและการยืนหยัดต่อสู้ด้วยสันติวิธีโดยการอดอาหารประท้วงตั้งแต่วันแรกที่พลเอกสุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้ารับตำแหน่ง  

ด้านเรืออากาศตรี ฉลาด ระบุว่า ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างโดดเดี่ยวในระบบรัฐสภาตั้งแต่เป็น ส.ส. เพราะสมัยก่อนไม่มี ส.ส.ที่กล้ายืนหยัดในหลักการประชาธิปไตย  ที่ผ่านมาได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับหัวหน้าและคณะรัฐประหารหลายชุดในข้อหากบฏ เพื่อเป็นแบบอย่างและมาตรฐานทางสังคม พร้อมย้ำว่า ประชาชนไม่ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  แม้จะสูญเสียจำนวนมาก และการร่างรัฐธรรมนูญเกือบทุกครั้งไม่ได้มีส่วนร่วมก็ตาม  โดยเห็นว่าคณะผู้เข้าสู่อำนาจโดยวิธีการนอกระบบนั้น  จะอยู่ในอำนาจไม่ได้นาน เนื่องจากไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ 

ส่วนนายแพทย์เหวง  โตจิราการ กรรมการก่อตั้งมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย  ย้ำถึงอุดมการณ์เดือนพฤษภา 35 คือต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง สะท้อนจากรูปแบบสำคัญคือ ต่อสู้ให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.รวมถึงประธานรัฐสภาต้องมาจากประธานสภาผู้แทนราษฎร  ดังนั้นทุกคนทุกฝ่ายที่ได้ทิ้งหลักการดังกล่าว  ไม่เพียงเหยียบย่ำวีรชนที่เสียชีวิตไปเท่านั้น แต่ได้ทำลายเจตนารมณ์การต่อสู้ของประชาชนเมื่อ 23 ปีที่แล้วด้วย   โดยยืนยันว่าต้องใช้สันติวิธีในการสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตย โดยสันติวิธี /เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด 
พร้อมฝากถึงแม่น้ำ 5 สาย ที่กำลังขับเคลื่อนประเทศขณะนี้  ให้พิจารณาความเห็นต่างจากทุกภาคส่วน  ไม่ควรเปิดช่องให้อำนาจนอกระบบหรือมีนายกคนนอก ที่จะซ้ำรอยและเป็นสาเหตุของการนองเลือดเมื่อ 23 ปีที่แล้ว 


ภาพโดย คุณเทวฤทธิ์ มณีฉาย

ขณะที่กิจกรรมในส่วนสหปาฐกถากำลังจะสิ้นสุด  เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 หรือ บก.น.1  ได้เข้ามาสั่งระงับกิจกรรมโดยอ้างว่า การจัดงานไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจ  แต่ก็ผ่อนปรนให้กิจกรรมสหปาฐกถาดำเนินไปจนเสร็จสิ้น จากนั้นคณะผู้จัดและผู้ร่วมงาน ได้เดินทางไปวางพวงหรีดและอ่านกวีรำลึกวีรชน ที่ประติมากรรมเหตุการณ์พฤษภา 35 ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตามกำหนดการ
ภาพโดย คุณสงวน คุ้มรุ่งโรจน์

ภาพโดย คุณสงวน คุ้มรุ่งโรจน์

ภาพโดย คุณสงวน คุ้มรุ่งโรจน์

ภาพโดย คุณสงวน คุ้มรุ่งโรจน์


วิศรุต บุญญา TV24 สถานีประชาชน รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น :